ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, ๒๕๕๒

ความหมายวิตามิน ตอน 3

วิตามินดี เด็ก ๆ อาจจะสงสัย เอทำไมดูกต้องเด่ด้วย ที่ต้องเขียนว่าดูกเด่ เพื่อให้คล้องจองกับวิตามินเคเขาน่ะคะ สำหรับวิตามินดี เขาจะทำหน้าที่ ควบคู่กับวิตามินซีในเรื่องของการดูแลกระดูกของเราให้แข็งแรงทนทานกัน สุด ๆ ค่ะ เมื่อรู้ประโยชน์กันแล้ว เรามาดูกันต่อค่ะว่าแหล่งวิตามินดี ได้มา อย่างไร ร่างกายของเรานี้แสนจะอัจฉริยะ เพราะร่างกายเราสามารถสร้าง วิตามินดีได้จากเม็ดสีหรือเราเรียกตามศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ว่าเมลานิน ใต้ผิวหนังซึ่งจะทำหน้าที่รับแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าหรือจะเป็นตอนเย็น ที่แดดไม่แรงจนเกินไปค่ะ เพราะถ้าไปตอนแดดแรง ๆจะไม่ใช่ได้วิตามินดี แต่จะกลายเป็นว่าได้มะเร็งผิวหนังมาเป็นของแถมแทนค่ะ วิตามินเค เลือดออก นั่นก็คือถ้าเด็ก ๆ ขาดวิตามินเค เมื่อบาดเจ็บมีแผลเลือด จะไหลไม่หยุด เลือดจะไหลออกมาเรื่อย ๆ เพราะเลือดจะไม่แข็งตัว ประมาณว่า ปกติเวลาที่เวลาเรามีบาดแผลพนักงานในร่างกายจำพวกเกล็ดเลือดจะเดินขบวน พาเหรดพากันมาอุดที่ปากแผลทำให้เลือดหยุดไหล แล้วบาดแผลก็จะค่อย ๆ หายค่ะวิตามินเค ร่างกายสามารถสร้างได้เองจากแบคที่เรียในลำไส้ค่ะ (แบคทีเรีย ก็มีประโยชน์เหมือ

ความหมายของวิตามิน

............... จากคราวที่แล้ว เด็ก ๆ รู้จักวิธีท่องสูตรของวิตามินกันแล้ว ถ้างั้นวันนี้ เราก็มาลงลึกถึงความหมายของวิตามินกันค่ะ วิตามินเอ เกี่ยวกับโรคตาค่ะ เช่น เป็นโรคตาฟ่าฟางประมาณว่า มองไม่ค่อย เห็นในที่มืด อะไรอย่างงี้ ถ้าไม่อยากต้องอยู่ในโลกมืดก็ต้องกินอาหารจำพวก ไขมันเนย น้ำมันตับปลา ไข่แดง กะหล่ำปลี พืชตระกูลถั่ว ผักสีแดง ผักสีเหลือง วิตามินบี ( 1) เกี่ยวกับโรคเหน็บชา เจ้าโรคที่ว่านี้เป็นโรคที่ถ้าเราเป็นเราจะรู้สึก ว่า เราเหมือน จะมีอายุใกล้ ๆ จะเรียกได้ว่าเป็น ส.ว. (สูงวัย) แล้วนะคะ เพราะโรคนี้ จะมีอาการชาที่ปลายมือ และปลายเท้า กล้ามเนื้อแขนและขาไม่มีกำลัง เวลาลุกนั่ง ก็ชาไปหมดแบบว่าไม่มีแรงน่ะค่ะ พบมากในอาหารจำพวก เนื้อหมู ข้าวกล้อง เห็ดฟาง ค่ะ วิตามินอี ถ้าใครขาดวิตามินอีจะไม่สามารถเป็นสิ่งมีชีวิตได้สมบูรณ์แบบ เอ้า...! ทำหน้า งง...กัน เป็นแถว ก็จะอะไรซะอีกล่ะคะ ก็ถ้าใครขาดวิตามินอีจะทำให้คนนั้น เป็นหมันที่ที่เรารู้กันดีก็คือ ไม่สามารถมีลูกหลานได้ไงละคะ ( หนึ่งในลักษณะของ สิ่งมีชีวิต ในหนังสือวิทย์ ป. 1 ค่ะ) อู้ย....รี

สูตรท่องวิตามิน

...........................เด็ก ๆ คะ เด็ก ๆ รู้ไหมคะว่าวิตามินสำคัญต่อเราอย่างไรบ้าง วิตามินเป็นหนึ่งในอาหารหลัก 5 หมู่ที่เป็นปัจจัยจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของ คนเราเลยนะคะ เพราะช่วยทำให้ร่างกายของเราสามารถทำงานได้เป็นปกติ ขับถ่ายสะดวก เราพบวิตามินได้ง่าย ๆ จากผลไม้ชนิดต่าง ๆ นั่นเองค่ะ และ โดยเฉพาะช่วงนี้ไข้หวัด 2009 กำลังระบาดมาก ๆ เพราะฉะนั้นการทำให้ ร่างกายแข็งแรงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ค่ะ และหนึ่งในวิธีที่จะป้องกันเจ้า เชื้อหวัด H1N1 นั้น การกินวิตามินซีก็ช่วยให้เราปลอดภัยจากเชื้อหวัดได้ ในระดับหนึ่งนะคะ (วิตามินซีได้จากการกินผลไม้รสเปรี้ยว หรือวิตามินซี แบบเม็ดก็ได้ค่ะ) ............................เอาละค่ะ ถึงเวลาที่ครูหลิวจะสอนสูตรท่องวิตามินแล้ว นะคะ พร้อมหรือยัง ไปกันเลย ยะ......ฮู้......... A หมายถึง วิตามินเอ เกี่ยวกับโรคตาฟ่าฟาง B หมายถึง วิตามินบี1 เกี่ยวกับเหน็บชา E หมายถึง วิตามินอี เกี่ยวกับการเป็นหมัน D หมายถึง วิตามินดี เกี่ยวกับกระดูก K หมายถึง วิตามินเค เกี่ยวกับเลือดไม่แข็งตัว B(2) หมายถึง วิตามินบี2 เกี่ยวกับโรคปากนกกระจอก

การสังเกต

...................เด็ก ๆ คะ กลับมาพบกับครูหลิว (สุดสวย...มั้ง!) กันอีกครั้งนะคะ เด็ก ๆ คะครูหลิวอยากสอน เรื่องการสังเกตเพิ่มเติมน่ะค่ะ แต่ก่อนอื่นขอท้าวความเดิมสักหน่อยนะคะ ..................การสังเกตเป็นหนึ่งในทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน ที่มีทั้งหมด 8 ทักษะ การสังเกตถือเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญมากทักษะหนึ่ง เพราะการทำการทดลองในวิชาวิทยาศาสตร์ล้วนต้องใช้การสังเกตช่วย การสังเกต หมายถึง การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ ตา = มองดู หู = ฟัง จมูก = ดมกลิ่น ลิ้น = ชิมรส ผิวกาย = สัมผัส และการใช้ประสาทสัมผัส ในการสังเกตไม่จำเป็น ต้องใช้ประสาทสัมผัสครบทั้ง 5 ประเภทค่ะ เพียงแต่เลือก ใช้ให้เหมาะกับสิ่งที่ เราสังเกตเท่านั้นค่ะ เช่น ในภาพนี้สมมติว่าเด็ก ๆ มองเห็น บีกเกอร์เหล่านี้ วางอยู่บนโต๊ะในห้อง LAB แล้วเด็ก ๆ ก็แสนที่จะสงสัยว่า มันคืออะไรกันนะ สีสวยจัง เด็ก ๆ จะเลือกใช้ประสาทสัมผัสใดบ้างคะ ตอบยังเอ่ย ! เอาละมาช่วยกันคิดว่าประสาทสัมผัสใดใช้ได้บ้าง 1. ใช้แน่นอน ต้องใช้ ตา เป็นอันดับแรกอยู่แล้วค่ะ ตา : ในบีกเกอร์มีของเหลวสีเหลือง สีเขียว และสีแดง ตา : มีบีกเกอร์อยู่